

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานในพิธีกล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานโครงการที่เป็นไปในทางที่ดี ภายใต้ความร่วมมือจากหน่วยงานท้องถิ่นและเครือข่ายภาคเอกชน โดยจุดเด่นของไทยแลนด์เบียนนาเล่ครั้งนี้คือการเปิดโอกาสให้ศิลปินได้ลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลอย่างหลากหลาย ก่อนตกผลึกเป็นไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยภัณฑารักษ์และคณะทำงานได้นำศิลปินเข้าสำรวจพื้นที่หลัก 17 แห่ง ที่ใช้ในการจัดแสดงผลงานในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองและอำเภอเชียงแสน ซึ่งทางโครงการได้จัดให้มีการลงพื้นที่มาแล้วกว่าห้าครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 –16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ในกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินในโครงการฯ
ทางด้านผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ คุณฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวณิช และคุณกฤติยา กาวีวงศ์ ก็ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของหัวข้องาน “เปิดโลก” (The Open World) เอาไว้ว่าเปรียบเสมือนการเปิดบ้านต้อนรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเฉพาะพื้นที่ อันเกิดจากการตีความมรดกทางวัฒนธรรมที่มีอยู่เดิม เพิ่มเติมเข้ากับประเด็นทางสังคมร่วมสมัย โดยเหล่าศิลปินจากทั่วโลก ซึ่งทางคณะทำงานก็ได้มีการคัดเลือกศิลปินเอาไว้จำนวน 60 คน จาก 21 ประเทศ แบ่งเป็นศิลปินชาวไทย 21 คน และศิลปินนานาชาติ 39 คน ปัจจุบันอยู่ในระหว่างขั้นตอนการนำแบบร่างผลงานจาก 60 ศิลปิน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานในลำดับต่อไป

นอกจากผลงานศิลปะในนิทรรศการหลักของศิลปินทั้ง 60 คนแล้ว ไทยแลนด์เบียนนาเล่ครั้งนี้ยังมีการเปิดศาลา (Pavilion) ของภาคีเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวนกว่า 10 หลัง อาทิ Korean Pavilion, MoMA Warsaw Pavilion, Production Zomia Pavilion, สล่าขิ่นพาวิลเลียน, กลุ่มศิลปินสีน้ำนานาชาติ รวมถึงกิจกรรมคู่ขนาน Collateral Event เช่น กิจกรรมการเสวนาโดย ภัณฑารักษ์ ศิลปิน และปราชญ์ท้องถิ่น การแสดงดนตรีชาติพันธุ์ การฉายภาพยนตร์ รถโรงหนัง ศิลปะการแสดง และกิจกรรมการเปิดบ้านของศิลปินเชียงราย ตลอดระยะเวลาการจัดงานมีบ้านศิลปินและแกเลอรีด้านศิลปะในเชียงราย ที่พร้อมเปิดให้เยี่ยมชมไม่น้อยกว่า 80 แห่ง ใน 18 อำเภอ
Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 จะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ณ หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CIAM) อ.เมือง จังหวัดเชียงราย และจะจัดงานต่อเนื่อง 5 เดือน จนถึง 30 เมษายน 2567
