ปิแอร์ ลุยจิ เตสติ (พ.ศ. 2475–2536) เกิดที่เมืองโมเดนา ประเทศอิตาลี จบการศึกษาด้านศิลปะจากสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งโบโลญญา ที่ซึ่งเขาได้รับฝึกฝนการสร้างสรรค์จากศิลปินอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายคน อาทิ Arcangelo Salvarani, Giorgio Morandi และ Ercole Drei เป็นผู้มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์งานของเตสติในระยะแรก ไม่เฉพาะงานจิตรกรรมบนผ้าใบหรือภาพวาดฝาผนังปูนเปียกเท่านั้น เตสติยังประสบความสำเร็จในการสร้างงานประติมากรรมหินอ่อน บรอนซ์ ไม้ และโมเสก รวมไปถึงงานภาพพิมพ์

หลักการสร้างสรรค์งานของเตสติ สะท้อนผ่านคำพูดของเขาที่ว่า “ทัศนคติเดียวที่พึงมีเกี่ยวกับศิลปะคือการให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเอง โดยไม่ปล่อยให้เหตุผลมีอำนาจในการพยายามควบคุมแรงกระตุ้นภายใน หากความปรารถนาภายในมีอำนาจเหนือการคิดแล้วไซร้ สีก็ย่อมมีอำนาจเหนือความจริงแห่งรูปทรง ผมมักให้ความสำคัญกับทั้งเนื้อหาและการแสดงออกมากกว่าเทคนิค แต่บางครั้งเทคนิคบางประการอาจจำเป็นสำหรับการแสดงโลกภายในที่แท้จริง ซึ่งผู้สังเกตอาจรับรู้ว่าไม่มีอยู่จริง” ในทรรศนะของเตสติ เขาไม่ได้ยึดการทำงานศิลปะเป็นอาชีพ แต่นิยามมันเป็นสภาวะของการมีชีวิตอยู่อันลึกซึ้งและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

Pier Luigi Testi, Figure speculari, 1976
Oil on canvas, 54 × 55 cm, Private collection

การให้ความสำคัญกับความรู้สึกนึกคิดของตนเองเป็นหลัก ทำให้เตสติมักสร้างสรรค์ผลงานแบบนามธรรม ภาพวาดของเขาแสดงออกด้วยรูปทรงและสีสันหลากหลาย ซึ่งปราศจากความหมายตายตัว ผู้ชมจึงมีโอกาสจินตนาการได้อย่างเสรี ดังเช่นในผลงาน Figure speculari ชิ้นนี้ เตสติสร้างส่วนโค้งขนาดใหญ่คล้ายหลุมลึกทำหน้าที่รองรับรูปทรงบิดเบี้ยวจำนวนมากที่เกาะกลุ่มหนาแน่นกันอยู่ตรงกลางภาพ รูปทรงเหล่านี้ดูคล้ายผืนผ้าพลิ้วไหว หรืออาจเป็นกลีบดอกไม้ หรือแม้แต่เรือนร่างของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แต่ทั้งหมดก็แสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาผ่านสีสันสว่างสดใส ดูราวกับกำลังเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ขัดแย้งกับพื้นหลังของภาพที่เน้นโทนสีเข้มเป็นหลัก

จุดสังเกตที่ชัดเจนมากที่สุดในภาพคือรูปทรงมนุษย์ที่กำลังนั่งหันหน้าเข้าหากัน ถูกจัดวางอย่างเป็นเอกเทศตรงมุมด้านล่างขวา เช่นนี้แล้ว ชื่อของผลงานอันหมายถึง “mirror figure” ก็ดูจะสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที

ภาพ Figure speculari เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะของศิลปินชื่อดังที่จัดแสดงในพาวิลเลียนนานาชาติพิมานทิพย์ ณ หอศิลป์พิมานทิพย์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Korat 2021