กฤษฎางค์ อินทะสอน, ณเรศ จึง, ธีรวัฒน์ นุชเจริญผล, และธีธัช ธนโชคทวีพร

ภัณฑารักษ์: ชโลธร อัญชลีสหกร

17 กรกฎาคม – 20 สิงหาคม 2566

MATDOT Art Center (Blacklist Gallery and Matdot Gallery)

ตลอดอายุขัยกว่าหกพันปีตามที่ระบุเอาไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล หรือสี่พันหกร้อยล้านปีตามการศึกษาของนักธรณีวิทยา โลกของเราต้องเผชิญกับเหตุการณ์มากมายที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศที่ผันแปร การสูญพันธุ์ของพืชและสัตว์หลายชนิด ตลอดจนสงครามที่นำมาซึ่งความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือการกระทำของมนุษย์ ล้วนทิ้งร่องรอยความเสียหายเอาไว้ให้กับโลก หากเปรียบโลกใบนี้เป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิต ก็คงไม่ต่างอะไรกับผู้ป่วยระยะวิกฤต สัญญาณชีพที่ดังผิดจังหวะราวกับการเตือนให้รู้ว่า โลกใบนี้ต้องได้รับการรักษาเยียวยาอย่างเร่งด่วน

ณเรศ จึง เฝ้าสังเกตสัญญาณเตือนผ่านข่าวสารที่หลั่งไหลเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก ความมากมายของข้อมูล ทำให้รายละเอียดหลายอย่างหล่นหาย จนเขาต้องสร้างสภาวะทางโลกของตัวเองขึ้นมาเพื่อดึงทุกอย่างให้ช้าลง ก่อนจะก้าวเข้าไปหยิบจับเรื่องราวที่ตัวเองสนใจออกมานำเสนออย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสำรวจและทบทวนความหมายของข้อมูลที่เขาได้รับรู้ ตอกย้ำความเข้าใจในสิ่งที่เข้ามากระทบจิตใจและส่งผลต่อวิถีชีวิต

ในทางกลับกัน ธีรวัฒน์ นุชเจริญผล เปิดประตูการรับรู้ทั้งห้า (ทวารทั้งห้า) ให้ข้อมูลไหลผ่านได้อย่างอิสระ จากความเชื่อส่วนตัวว่าวิวัฒนาการของมนุษย์นั้นดำเนินควบคู่ไปกับธรรมชาติ สรรพสิ่งทุกอย่างล้วนมีความเชื่อมโยงกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตัวเขาทำหน้าที่เป็นเพียงกล่องรับข้อมูลใบหนึ่ง จัดเก็บทุกสิ่งที่เคลื่อนเข้ามาผ่านประสบการณ์ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง เขาจึงตระหนักได้ว่าหลายสิ่งที่เก็บไว้นั้นได้แปรสภาพเป็นขยะ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อชีวิต ธีรวัฒน์จึงเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเอาไว้ คัดกรองสิ่งที่จำเป็น คักแยกสิ่งที่ไร้ค่า แสวงหาหนทางกลับสู่ความสงบภายในจิตใจ

แต่ละก้าวของมนุษย์สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ธีธัช ธนโชคทวีพร ก้าวเดินไปทีละก้าวไปพร้อมสัมภาระติดตัวมากมายที่ได้รับมาระหว่างทาง ไม่อาจวางลงได้เพียงเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตข้างหน้าสิ่งของเหล่านี้อาจกลายเป็นสิ่งจำเป็น ทว่าด้วยความโง่เขลาของมนุษย์ที่มักหลงคิดไปว่าตนเองรู้ดีที่สุดกลับนำมาสู่ความอันตรายที่ไม่อาจประเมินได้  เมื่อสัมภาระที่ต้องแบกเอาไว้ก่อให้เกิดแรงกดทับมหาศาลต่อจิตใจ การระลึกรู้เหล่านี้ได้ถูกศิลปินสื่อสารออกมาเป็นผลงานที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวชัดเจนจนไม่อาจละสายตา

การเติบโตของโลกที่เรียนรู้ผ่านประวัติศาสตร์ เปิดโอกาสให้ กฤษฎางค์ อินทะสอน ได้เปิดเผยตัวตนสู่สาธารณะ ผลงานของเขามักกล่าวถึงเพศสภาพและสภาวะภายในจิตใจ นำเสนอผ่านรากฐานของศิลปะล้านนาที่ติดตัวเขามา กลายเป็นเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์ที่เขายึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ ทว่าวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เป็นภาวะบีบบังคับให้เราต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ บังคับให้อยู่กับตัวเอง กลายเป็นช่วงเวลาให้ศิลปินได้คิดทบทวน และค้นหาเส้นทางใหม่ๆ จุดเปลี่ยนของโลกได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในงานของโอปอล์อีกครั้ง

แม้ช่องทางการรับรู้ วิธีการประมวลผลและรับมือของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ทว่าวิกฤตที่เกิดขึ้น ในโลกปัจจุบันได้สร้างแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้ศิลปินทั้งสี่ตระหนักรู้ถึงภาวะคับขันในการดำรงอยู่ของโลก ผ่านความอึดอัดในการดำเนินชีวิต จนต้องเสาะหาทางออกเพื่อโลกและตัวตนของพวกเขา.