Artists: Aldo Tambellini and Jinjoon Lee

18 June – 14 August 2023

At MAIIAM Contemporary Art Museum, Chiang Mai

Organized by MAIIAM Contemporary Art Museum in-collaboration with TOPOS STUDIO 

and Chiang Mai Performing Arts Festival

พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยมขอเชิญทุกท่านเข้าชม GLIMPSE นิทรรศการโดยศิลปินผู้บุกเบิกผลงานศิลปะรูปแบบสื่อทดลอง อัลโด แทมเบลลินี่ (Aldo Tambellini) และ จินจุน ลี (Jinjoon Lee) ผ่านการนำเสนอผลงานศิลปะอิมเมอร์ซีฟ (immersive art) อันท้าทายการรับรู้ถึงสภาวะความเป็นจริง และชวนให้เราสำรวจลึกลงไปถึงการตระหนักรู้ของมนุษย์ และผลงานวิดีโอจัดวางที่ภาพและเสียงจะพาผู้ชมดำดิ่งลงไปสำรวจอาณาเขตของห้วงอารมณ์ของตนเอง 

We Are the Primitives of a New Era (พวกเราเป็นคนกลุ่มแรกเริ่มในยุคสมัยใหม่, พ.ศ. 2563) โดย อัลโด แทมเบลลินี่ คือหนึ่งในชิ้นงานสำคัญของนิทรรศการ ผลงานวิดีโอจัดวางแบบอิมเมอร์ซีฟขนาดใหญ่ที่เล่าเรื่องผ่านภาพเคลื่อนไหว 3 มิติความละเอียดสูง (mapping) โอบล้อมผู้ชมรอบทิศทางชิ้นนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่างมูลนิธิศิลปะอัลโด แทมเบลลินี่ (Aldo Tambellini Art Foundation) และโทโปส สตูดิโอ (TOPOS STUDIO) โดยตีความผลงานที่ศิลปินสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2504-2532 ใหม่ ภายใต้การแนะนำอย่างใกล้ชิดของศิลปิน ทั้งนี้ ในผลงานต้นฉบับ อัลโดเลือกผสานเทคนิคอันหลากหลาย ทั้งการฉายฟิล์มสไลด์ ภาพเคลื่อนไหว ศิลปะการแสดงสด ดนตรี เพื่อทำให้เกิดประสบการณ์กระตุ้นการรับรู้ความรู้สึก ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า อิเล็กโทรมีเดีย (Electromedia)

สร้างขึ้นครั้งแรกในทศวรรษ 1960 พร้อมกับแรงบันดาลใจของศิลปินที่มีต่อปรากฏการณ์จันทรุปราคา We Are the Primitives of a New Era คือผลงานที่ศิลปินเชื้อเชิญให้ผู้ชมร่วมเป็นสักขีพยานต่อการเกิดขึ้นของยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยที่ปฏิวัติโลกทัศน์ของมนุษย์ไปอย่างสิ้นเชิงและโดยถาวร ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าในการสำรวจอวกาศ หรือการค้นพบอันยิ่งใหญ่ทางคณิตศาสตร์ที่ส่งผลต่อการบุกเบิกองค์ความรู้เกี่ยวกับจักรวาล ผลงานของแทมเบลลินี่ทำให้เห็นถึงเสี้ยวหนึ่งของเอกภพอันแผ่ไพศาลที่ท้าทายขอบเขตทางความคิด เศษเสี้ยวของโลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยมุมมองเชิงบวก

Aldo Tambellini, We Are the Primitives of a New Era, 2021, Immersive video, 11 min.

Courtesy of TOPOS Studio

ในพื้นที่จัดแสดงเดียวกับ We Are the Primitives of a New Era ยังมีผลงานอีกชิ้นของแทมโบลินี่ที่จะจัดแสดงเฉพาะช่วงเวลาในชื่อ Black Zero (พ.ศ. 2565) ผลงานที่ถูกสร้างครั้งแรกในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผสม (electro-intermedia) ระหว่างปี พ.ศ. 2508 – 2511 ก่อนจะได้รับการดัดแปลงเพื่อนำเสนอใหม่ในรูปแบบอิมเมอร์ซีฟ เธียเตอร์ (immersive theater) ที่เปิดให้ศิลปินรุ่นใหม่ตีความและสร้างสรรค์การแสดงไปพร้อมกับชิ้นงาน โดยในนิทรรศการนี้ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยมยังได้รับเกียรติจาก คุณประภัสสร คอนเมือง นักออกแบบท่าเต้นและสมาชิกกลุ่มลานยิ้มการละคร มาสร้างสรรค์งานเพอร์ฟอร์แมนซ์ร่วม การแสดงจะจัดขึ้นทั้งหมด 4 วัน ได้แก่ วันอาทิตย์ที่ 2, วันศุกร์ที่ 14 และ เสาร์ที่ 29 กรกฎาคม และรอบสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม ในเวลา 13.00 น. และ 17.00 น. (วันละ 2 รอบการแสดง) ทั้งนี้ การแสดงชุดดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลศิลปะและการแสดงเชียงใหม่ ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้

Aldo Tambellini, We Are the Primitives of a New Era, 2021, Immersive video, 11 min.

Courtesy of TOPOS Studio

ตรงกันข้ามกับมุมมองถึงอนาคตอันสดใส นิทรรศการนี้ยังนำเสนอผลงานภาพเคลื่อนไหวที่แสดงถึงความสับสนและความไม่มั่นคงทางจิตใจ ผ่านผลงาน Insomnia (นอนไม่หลับ, พ.ศ. 2549) โดย จินจุน ลี ผลงานภาพเคลื่อนไหวจัดวางจอเดี่ยวที่นำเสนอโลกทัศน์อันขัดแย้งกันอย่างสุดขั้วระหว่างภาพและเสียง การกระเพื่อมไหวของม่านหน้าต่างและขอบมู่ลี่ รวมถึงเสียงบรรเลงประกอบ ที่ซึ่งจู่ๆ เสียงเหล่านี้กลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงระเบิดอันน่าตื่นตระหนก ซึ่งเกิดขึ้น ณ ที่ใดสักแห่งนอกฉากทัศน์

ผลงานนี้เป็นดังการสร้างห้องเสมือนที่ชวนผู้ชมเข้าไปสำรวจภาวะคู่ขนานในการรับรู้ของตัวตน ผ่านแสงจากนอกหน้าต่างที่ลอดผ่านช่องของม่าน ตัดกับความมืดมิดภายในห้อง ความสงบนิ่งในพื้นที่ปลอดภัยกับเสียงแห่งความโกลาหลที่อยู่ห่างออกไปจากความรับรู้ ได้สร้างประสบการณ์ทางอารมณ์อันซับซ้อนและสั่นคลอน ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสภาวะภายในจิตใจและโลกภายนอก

บทสนทนาระหว่างงานศิลปะที่คล้ายพาเราไปสำรวจจักรวาลแห่งความไม่รู้ภายใต้สำนึกใหม่ ของ อัลโด แทมเบลลินี่ และโลกที่เกินจะคาดเดานอกกรอบหน้าต่างของ จินจุน ลี GLIMPSE ชวนให้เราย้อนกลับไปหาคำตอบของคำถามทางปรัชญาขั้นพื้นฐานที่สุด ว่าด้วยการมีอยู่ของตัวเราเอง รวมถึงสภาวะและตำแหน่งแห่งที่ของมนุษย์ ท่ามกลางสังคมที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และโลกที่หมุนวนอย่างไม่สิ้นสุด

Aldo Tambellini, Black Zero, 1965 – 68, Electro-intermedia Performance

Recreate in GLIMPSE, 2023, Performer: Prapassorn Konmuang ,Courtesy of TOPOS Studio

เกี่ยวกับศิลปิน 

อัลโด แทมเบลลินี่ (นิวยอร์ก, พ.ศ. 2473 – 2563) 

อัลโด แทมเบลลินี่ เป็นศิลปินชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียน เขาเป็นผู้บุกเบิกการทำงานศิลปะด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์อันหลากหลาย รวมถึงยังเป็นจิตรกร ประติมากร และกวี เขาเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ในวัย  90 ปี ด้วยทุนการศึกษาเต็มจำนวนที่มหาวิทยาลัยไซราคัส (Syracuse University) เขาสำเร็จการศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาจิตรกรรม ในปี พ.ศ. 2497 และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ในปี พ.ศ.2502 จากทุนการสอนที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเทอร์ดาม (University of Notre Dame) ในปีเดียวกันนั้นเขาได้ย้ายไปนิวยอร์กซิตี้ ฝั่งตะวันออกตอนล่าง และก่อตั้งกลุ่มใต้ดินที่เรียกว่า “ต่อต้านวัฒนธรรม” (counter-culture) และ “กลุ่มตรงกลาง” (Group Center) นำเสนอทางเลือกในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่ไม่ได้เป็นไปตามธรรมเนียมนิยมในพื้นที่สาธารณะ อัลโดยังเป็นผู้บุกเบิกการเคลื่อนไหวด้านวิดีโออาร์ตในช่วงปลายยุค 60s ในปี พ.ศ. 2508 เขาเริ่มวาดภาพลงบนแผ่นฟิล์ม โดยเริ่มต้นจากผลงานชุด “ภาพยนตร์สีดำ” (Black Film Series) ซึ่ง “ทีวีสีดำ” (Black TV) (ที่ใช้ทั้งฟิล์มและวิดีโอ) ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับนานาชาติ จากเทศกาลภาพยนตร์โอเบอร์เฮาเซิน (Oberhausen Film Festival) ในปี พ.ศ. 2512 อัลโด เริ่มจัดทำการแสดงชุดอิเล็กโทรมีเดีย (electromedia performances) ซึ่งผสมผสานการฉายภาพยนตร์ การฉายภาพจิตรกรรม วีดิทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว กวีนิพนธ์ การแสดงแสง-สี-เสียง การเต้นรำ และการแสดงสดของนักดนตรี เขาก่อตั้งคณะละครเกท (Gate Theatre) ซึ่งเป็นโรงละครสาธารณะรายวันเพียงแห่งเดียวที่แสดงผลงานของผู้สร้างภาพยนตร์อิสระอันล้ำยุค และในปี พ.ศ. 2510 เขาได้ร่วมก่อตั้ง เดอะแบล็คเกท (The Black Gate) กับอ็อตโต ไพน์ (Otto Piene) ซึ่งเป็นโรงละครแห่งที่สองที่นำเสนอการแสดงสดและสื่ออิเล็กโทรมีเดีย (electromedia) ในปี พ.ศ. 2553  อัลโดได้รับรางวัลเหรียญทองจากรัฐบาลอิตาลีจากองค์กร Lucchesi Nel Mondo Organisation เพื่อยกย่องความสำเร็จตลอดชีวิตของเขาในด้านศิลปะ

Jinjoon Lee, Insomnia, 2006 Single channel video and sound installation, 3 min. 40 sec. Courtesy of the artist

จินจุน ลี (มาซาน, พ.ศ. 2517) 

จินจุน ลี FRSA (เกิดที่เมือง มาซาน ประเทศเกาหลีใต้) เป็นศาสตราจารย์ ประติมากร ศิลปินสื่อใหม่ และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ โดยผลงานส่วนใหญ่ของลีเน้นการสำรวจประสบการณ์สภาวะกึ่งกลางของอุดมการณ์พื้นที่ยูโทเปียด้วยเทคโนโลยีใหม่ หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Business School of Seoul National University) ในปี พ.ศ. 2544 เขาเข้าศึกษาต่อสาขาประติมากรรมที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน และได้รับปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต ใน พ.ศ. 2548 และศิลปศาสตรมหาบัณฑิตในปี พ.ศ. 2552 ก่อนเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาภาพเคลื่อนไหวและการออกแบบอย่างมีส่วนร่วมที่รอยัลคอลเลจออฟอาร์ต (Royal College of Art) ลอนดอน เมื่อปี พ.ศ. 2560 และได้รับดุษฎีบัณฑิตจากวิทยาลัยศิลปะรัสกิ้น (Ruskin School of Fine Art) มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด (University of Oxford) ลีได้จัดแสดงผลงานในสถานที่หลายแห่งทั่วโลก รวมถึงพิพิธภัณฑ์เมืองโซล, พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยแห่งชาติเกาหลี, ศูนย์นานาชาติอินเดีย, หอศิลป์แห่งชาติปรากในสาธารณรัฐเช็ก, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย, ราชวิทยาลัยศิลปะและราชวิทยาลัยดนตรีในลอนดอน เขาเป็นสมาชิกของ Royal Society of Arts, Royal Society of Sculptors และได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ที่สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงของเกาหลี (KAIST) รวมถึงทำงานวิจัยเกี่ยวกับศิลปะและการออกแบบที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล สถาปัตยกรรมดิจิทัล และประสิทธิภาพของ XR สำหรับ Future of Opera ด้วยเทคโนโลยีอย่าง VR, AI และ NFT ที่ห้องปฏิบัติการ TX ของเขา ปัจจุบันเขาเป็นผู้อำนวยการผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะ KAIST และศูนย์ศิลปะและเทคโนโลยี (KATEC)

Jinjoon Lee, Insomnia, 2006, Single channel video and sound installation, 3 min. 40 sec. Courtesy of the artist