ศิลปิน มิตร ใจอินทร์ 

ภัณฑารักษ์ เมลานี โพค็อก และ กิตติมา จารีประสิทธิ์

15 เมษายน พ.ศ. 2566 – 1 เมษายน พ.ศ.2567

ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม จังหวัดเชียงใหม่ (MAIIAM)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยมมีความภูมิใจนำเสนอ ดรีมเวิลด์ #ดรีมมันตรา (Dreamworld #dreammantra) นิทรรศการโดย มิตร ใจอินทร์ (เกิด พ.ศ. 2503) ศิลปินร่วมสมัยชาวเชียงใหม่ ที่มีผลงานอยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศไทย ผลงานของเขาโดดเด่นทั้งวิธีการใช้สีสันอันหลากหลายที่ผสานรวมความเป็นจิตรกรรมและประติมากรรมเข้าไว้ด้วยกัน นิทรรศการนี้นำเสนอผลงาน บางส่วนที่เคยจัดแสดงในนิทรรศการ ดรีมเวิลด์ (Dreamworld)  ณ ไอคอน แกลเลอรี่ (Ikon Gallery) เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2564 รวมถึงผลงานชุดใหม่จากโครงการศิลปะที่เน้นการมีส่วนร่วมภายใต้ชื่อ ดรีมมันตรา ( #dreammantra, 2566) และ บ่อ (​​pond, 2566)

ดรีมเวิลด์ #ดรีมมันตรา  คือส่วนต่อขยายของ ดรีมเวิลด์  นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ มิตร ใจอินทร์ ในยุโรป ซึ่งได้หมุนเวียนไปจัดแสดง ณ หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน ในชื่อนิทรรศการ ดรีมเดย์ (Dreamday) เมื่อ พ.ศ. 2565  เมื่อปีที่ผ่านมา โดยนิทรรศการนี้จะนำเสนอความฝันถึงสังคมอุดมคติ (utopia) ของศิลปิน และความหวังของผู้คนที่มีร่วมกันถึงอนาคตที่สดใสกว่า ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันว่าทั้งภาวะโรคระบาดครั้งใหญ่ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก ได้แพร่กระจายความรู้สึกหดหู่สิ้นหวังสู่สังคมอย่างกว้างขวาง จนทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งเลือกที่จะถอนตัวจากชีวิตจริง ความท้าทายเหล่านี้กระตุ้นให้เราจินตนาการถึงทางเลือกในการใช้ชีวิต ที่ต่อต้านวิถีการผลิตอันเอารัดเอาเปรียบ (exploitative modes of production) และทดแทนด้วยการสนับสนุนคุณค่าของการดำรงอยู่ การสร้างบทสนทนาร่วม และการดำเนินธุรกรรมอย่างโอบอ้อมอารีในรูปแบบเศรษฐกิจของขวัญ (gift economies)

มิตร ใจอินทร์, นิทรรศการ ‘Dreamworld’ ภาพรายละเอียดผลงาน Dream Tunnel, พ.ศ. 2564, สีน้ำมันบนผ้าใบ

© Ikon Gallery, พ.ศ. 2564, ภาพถ่ายโดย Stuart Whipps

หัวใจหลักในการทำงานศิลปะของ มิตร ใจอินทร์ คือการหมุนเวียนพลังงานบวกระหว่างเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติ มิตรใช้สื่อจิตรกรรมเป็นเครื่องมือส่งผ่านสนามพลังจากโลก (ผ่านแหล่งที่มาของวัสดุที่ใช้สร้างสรรค์ผลงาน) แปรรูปสู่ชิ้นงาน และหมุนเวียนพลังงานนี้สู่บรรยากาศแวดล้อมชิ้นงานและผู้ชม เขามักสร้างผลงานบนผ้าใบที่ยังไม่ถูกขึงในยามค่ำคืน ละเลงสีด้วยมือ กดด้วยนิ้ว และป้ายด้วยเกรียง ก่อนจะใช้สัญชาตญาณผสานสีสันอันหลากหลายเข้าด้วยกัน ความหนาของเนื้อสีเกิดจากการผสมกันของน้ำมัน ผงแร่ยิปซัม ผงสี และสีอะคริลิค และบางครั้งเขาก็ใช้น้ำมันลินซีด ลดทอนความหนาของชั้นสีให้บางลง เมื่อถึงจุดหนึ่ง ร่องรอยของกลุ่มก้อนและจุดสีก็ต่างร้อยเรียงเกิดเป็นจังหวะ รูปแบบ และภาษาเฉพาะตัว

ในฐานะพุทธศาสนิกชน มิตรมองศิลปะในฐานะรูปแบบของ “สถาปัตยกรรมทางสังคม” อันเป็นเครื่องมือสะท้อนพลวัตของเศรษฐกิจผู้บริโภค (consumer economies) ที่ถูกควบคุม เป็นเวลาหลายปีที่เขาทำงานโดยไม่ระบุตัวตนให้กับศิลปินท่านอื่นโดยไม่รับค่าตอบแทน รวมถึงทำงานของตัวเองเพื่อแจกจ่ายให้กับคนทั่วไปราวกับเป็นสิ่งของสาธารณะ ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการเชียงใหม่จัดวางสังคม (Chiang Mai Social Installation : CMSI) เขาสร้างผลงานเพื่อแจกจ่ายให้กับศิลปินที่ร่วมโครงการและชาวบ้านในพื้นที่ ราวกับเป็นของสาธารณะ สิ่งนี้เน้นย้ำว่าสำหรับมิตร งานศิลปะคือของกำนัล (gifts) ที่ซึ่งคุณค่าของมันขึ้นอยู่กับผู้ครอบครอง เจ้าของสถานที่จัดงาน และผู้รับชม

มิตร ใจอินทร์, Dream Tunnel, พ.ศ. 2564, สีน้ำมันบนผ้าใบ, เอื้อเฟื้อโดย หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

ดรีมเวิลด์ #ดรีมมันตรา  สำรวจพลังแห่งการเยียวยาและพลังทางสังคมของศิลปะ ผ่านผลงานอันเปี่ยมชีวิตชีวาซึ่งเปิดให้ผู้ชมสามารถจับต้องสัมผัส มุดผ่าน เหยียบย่ำ หรือกระทั่งนำติดตัวกลับบ้าน โดยเปลี่ยนพื้นที่จัดแสดงงานของพิพิธภัณฑ์ให้กลายเป็นเสมือนบ้านพักอาศัย ที่จะนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ฯ จะพบกับ บ่อ (2566) ผลงานที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับจัดแสดงครั้งนี้ บ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีประติมากรรมกว่าร้อยชิ้นลอยอยู่ Dream Tunnel (2564) ผลงานจิตรกรรมจัดวางที่ห้อมล้อมผู้ชมด้วยหมู่มวลเส้นสายหลากสีสัน ซึ่งเปิดให้ผู้ชมสามารถเดินหรือลอดผ่าน ศิลปินตั้งใจใช้งานชิ้นนี้ช่วย “ชำระล้างความซบเซาหรือบาดแผลอันเจ็บปวด”  Midlands Dwelling (2564) อ้างอิงจากถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ซึ่งมนุษย์ในยุคนั้นได้จดจารความฝันของพวกเขาผ่านจิตรกรรมบนผนังถ้ำ ผสานกับแรงบันดาลใจของศิลปินระหว่างที่เขาไปเยือนเมืองเบอร์มิงแฮม จนเกิดเป็นประติมากรรมเหล็กที่ล้อมรอบด้วยงานจิตรกรรมคล้ายโถงถ้ำ Dream Works (2542–) และ Loops (2562–) เป็นผลงานชุดจิตรกรรมบนผืนผ้าใบทั้งสองด้าน ที่ผ่านการตัดและผ่าเพื่อให้เกิดเส้นสายโค้งเว้าและรูปทรงบ่วง โดยสามารถจัดแสดงได้ทั้งการแขวนบนผนัง หรือวางบนพื้น

มิตร ใจอินทร์, Aquarius Nerves, พ.ศ. 2564, โครงสร้างเหล็ก สีอะคริลิกบนผ้าใบและบนเหล็ก มอเตอร์ และสีที่ยังไม่แห้ง  เอื้อเฟื้อโดย หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

ดรีมมันตรา คือหัวใจสำคัญของนิทรรศการในครั้งนี้ และเป็นการสานต่อโครงการศิลปะที่เน้นการมีส่วนร่วมของมิตร ทั้งจากโครงการ เวียนนา อพาร์ทเม้นท์ (2543) #dreammantra (2564) และบางกอก อพาร์ทเม้นท์ (2565) ที่มิตรเปิดโอกาสให้ผู้ชมนำผลงานที่จัดแสดงกลับบ้านได้ โดยแลกกับสิ่งตอบแทนอื่นที่ไม่ใช่เงิน แต่เป็นการเปิดบ้านของผู้ที่รับชิ้นงานไปให้คนแปลกหน้าเข้าชมเพื่อใช้เวลาร่วมกัน เช่นเดียวกับ #ดรีมมันตรา (2566) ที่โครงการนี้จะเปิดให้ผู้ชมสามารถเลือกผลงานกลับบ้านได้วันละ 1 ชิ้น* ตลอดระยะเวลาจัดแสดง โดยแลกเปลี่ยนกับการให้คำปฏิญาณเรื่องใดก็ได้ต่อตนเองและสังคม โดยบันทึกคำสัญญานั้นในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว และนำเสนอสู่สาธารณะในแพลทฟอร์มออนไลน์ผ่านช่องทางยูทูปของพิพิธภัณฑ์ฯ  

ในครั้งนี้ศิลปินได้สร้างประติมากรรมกระดาษจำนวนกว่าหลายร้อยชิ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ ‘หินบอกเขต’ (marking stone) ประกอบด้วยวัตถุรูปทรงคล้ายก้อนหิน บางชิ้นทึบและมีขา บางชิ้นกลวงและมีช่องว่างให้ใส่สิ่งของลงไปได้ ส่วนกลุ่มที่สอง ‘แสงสว่างบอกทาง’ (marking light) เป็นชุดโคมไฟแบบมีขาตั้งหลากระดับ มิตรได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างงานชุดนี้มาจากใบเสมา ซึ่งเป็นหลักกำหนดเขตแดนภายในศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมในพุทธศาสนา ทั้งนี้ อีกนัยหนึ่ง มิตรมุ่งหวังว่าวัตถุที่เขาสร้างจะเป็นดังเครื่องรางที่ช่วยกางเขตแดนให้บ้านกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงเป็นหลักอันมั่นคงแก่จิตใจ และเป็นที่หลบภัยในยามยากให้แก่ผู้ชม 

มิตร ใจอินทร์, Midlands Dwelling, พ.ศ. 2564, สีน้ำมัน ผงสีแบบเข้มข้น และกาวบนผ้าใบ, สีอะคริลิกบนผ้าใบและโลหะ 

เอื้อเฟื้อโดย หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

ผลงานชุด ดรีมมันตรา นำพาเราย้อนกลับไปสำรวจแนวความคิด ‘สถาปัตยกรรมทางสังคม’ ที่ซึ่งวางสถานะของงานศิลปะให้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและสังคม และเป็นดังของกำนัลให้กับความตั้งมั่นและความแน่วแน่ของผู้ชมในการปฏิญาณต่อตนเองและสังคม พร้อมไปกับการจัดแสดงนิทรรศการนี้ ท่านสามารถรับชมหรือหาซื้อหนังสือรวบรวมผลงานและชีวิตของมิตร ใจอินทร์ ตีพิมพ์โดยไอคอน และมูลนิธิ ArtAsiaPacific ได้ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม หนังสือจัดพิมพ์ในรูปแบบสี่สี รวมทั้งบันทึกผลงานจากนิทรรศการ Dreamworld ณ ไอคอน แกลเลอรี่ รวมไปถึงชิ้นงานสำคัญ และบทความโดย เมลานี โพค็อก ภัณฑารักษ์จาก ไอคอน, ไซม่อน ซุน นักประวัติศาสตร์ศิลปะ, ไบรอัน เคอทิน ภัณฑารักษ์ และบทสัมภาษณ์ศิลปินโดย กฤติยา กาวีวงศ์ ผู้อำนวยการหอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

*หมายเหตุ สงวนสิทธิ์รับวัตถุ 1 ชิ้น ต่อผู้ชม 1 ท่าน โดยแจกวันละ 1 ชิ้นเท่านั้น

ภาพถ่ายจากโปรเจค บางกอก อพาร์ทเม้นท์ ในนิทรรศการเดี่ยวของมิตร ใจอินทร์ Dreamday ณ หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน,

8 ธันวาคม พ.ศ. 2565 – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, เอื้อเฟื้อโดย หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

มิตร ใจอินทร์, นิทรรศการ ‘Dreamworld’, Dream Tunnel, พ.ศ. 2564, สีน้ำมันบนผ้าใบ © Ikon Gallery, พ.ศ. 2564, ภาพถ่ายโดย Stuart Whipps

มิตร ใจอินทร์, ภาพรายละเอียดผลงาน People’s Screen, พ.ศ. 2565, สีน้ำมันบนผ้าใบ

เอื้อเฟื้อโดย หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

(จากด้านซ้าย) มิตร ใจอินทร์, Dream Works, พ.ศ. 2542-, สีน้ำมันบนผ้าใบ // Loops, พ.ศ. 2562, สีน้ำมันบนผ้าใบ // ไม่มีชื่อ (Scroll), พ.ศ. 2564, สีน้ำมันบนผ้าใบ 

เอื้อเฟื้อโดย หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

ภาพถ่ายจากโปรเจค บางกอก อพาร์ทเม้นท์ ในนิทรรศการเดี่ยวของมิตร ใจอินทร์ Dreamday ณ หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน, 8 ธันวาคม พ.ศ. 2565 – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เอื้อเฟื้อโดย หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน

เกี่ยวกับศิลปิน 

มิตร ใจอินทร์ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2503 ในจังหวัดเชียงใหม่ เขาเติบโตมาในครอบครัวชาวยอง ในหมู่บ้านหัตถกรรมล้านนาทางภาคเหนือของประเทศไทย เมื่ออายุได้ 9 ขวบ มิตรบวชเป็นสามเณร ที่วิทยาลัยสงฆ์จิตตภาวันในเมืองพัทยา และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นระหว่างปี พ.ศ. 2513–2519  เขาเริ่มศึกษาด้านศิลปะในปี 2525 ที่มหาวิทยาลัยศิลปากรในกรุงเทพฯ แต่ด้วยความรู้สึกต่อต้านหลักสูตรแนวจารีตนิยมใหม่ของมหาวิทยาลัย มิตรออกเดินทางไปทวีปยุโรปในปี 2529 ที่ซึ่งเขาได้ตั้งแคมป์ในเมืองคาสเซิลระหว่างเทศกาลศิลปะ ด็อกคูเมนต้า ครั้งที่ 8 และได้สมัครเข้าเรียนในหลักสูตรปริญญาโทของมหาวิทยาลัยประยุกต์ศิลป์ (University of Applied Arts) ในกรุงเวียนนา ปลาย พ.ศ. 2530 ระหว่างเรียนอยู่ที่นั่นเขาได้พบกับศิลปินชื่อดังชาวออสเตรียอย่าง ฟรานซ์ เวสต์ (Franz West) และมีโอกาสได้ไปทำงานเป็นผู้ช่วยในสตูดิโอของเขาในช่วง พ.ศ. 2531-2535 เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยใน พ.ศ. 2535 มิตรและเพื่อนศิลปินได้ร่วมกันก่อตั้งเทศกาล เชียงใหม่จัดวางสังคม ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะจัดวางและศิลปะการแสดงสดแบบชั่วคราว ที่จัดขึ้นตามพื้นที่สาธารณะและตามวัดต่าง ๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ผลงานของมิตรถูกจัดแสดงทั้งในโครงการที่จัดทำโดยศิลปิน พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ และในงานเทศกาลศิลปะระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลศิลปะโยโกฮามา เทรียนนาเล่ (Yokohama Triennale) (2548) หรือการจัดแสดงที่พาเลส์ เดอ โตเกียว (Palais de Tokyo) ในกรุงปารีส (2550) พิพิธภัณฑ์ศิลปะสิงคโปร์ (Singapore Art Museum) (2557) พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ (Mori Art Museum) เมืองโตเกียว (2560) พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์เกาสง (Kaohsiung Museum of Fine Arts) เมืองเกาสง (2562) เทศกาลศิลปะซิดนีย์เบียนนาเล่ (Biennale of Sydney) ในครั้งที่ 18 และ 21 (2555 และ 2561) ไอคอน แกลเลอรี่  (Ikon Gallery) (2564) และ อาชิ เทรียนนาเล่ (Aichi Triennale, 2565) ผลงานของมิตรอยู่ภายใต้การดูแลของแกลเลอรี่ซิลเวอร์เลนส์ (Silverlens) ในเมืองมะนิลา และทีเคจีพลัส (TKG+) ที่กรุงไทเป ปัจจุบันเขาใช้ชีวิตและทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่

เกี่ยวกับภัณฑารักษ์

เมลานี โพค็อก (Melanie Pocock) ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการด้านศิลปะและนิทรรศการ แห่งแกลเลอรี่ไอคอน (Ikon) ณ เมืองเบอร์มิงแฮม สหราชอาณาจักร โดยที่เธอรับผิดชอบด้านนิทรรศการ โครงการนอกสถานที่ และสื่อสิ่งพิมพ์ นิทรรศการที่ผ่านมาได้แก่ Animal (2564 – 2565) โดยผู้กำกับชาวอเมริกัน-ไต้หวัน เจมส์ ที ฮง (James T. Hong) และ Dreamworld (2564) นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในยุโรปของศิลปินไทย มิตร ใจอินทร์ ก่อนทำงานที่ไอคอน เมลานีเคยทำงานเป็นผู้ช่วยภัณฑารักษ์อยู่ที่สถาบันศิลปะร่วมสมัยแห่งสิงคโปร์ (Institute of Contemporary Arts Singapore) (2557–2562) เธอจัดงานนิทรรศการมาแล้วถึง 60 นิทรรศการ ร่วมกับศิลปินจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจากทั่วโลก ในฐานะนักเขียน เธอได้เขียนบทความและบทวิจารณ์ให้แก่สื่อต่าง ๆ อย่างเช่น ArtAsiaPacific, Art Monthly, Frieze, Kaleidoscope, Ocula, The Financial Times, The Journal of Curatorial Studies, Di’van: A Journal of Accounts และ Third Text ใน พ.ศ. 2557 เธอได้ทำงานบรรณาธิการและร่วมเขียนในหนังสือเล่มแรกที่รวบรวมผลงานของ ชูชี สุลัยมาน (Shooshie Sulaiman) ศิลปินชาวมาเลเซีย ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เคอร์เบอร์ เวอร์แล็ก (Kerber Verlag) เธอเป็นสมาชิกสมาคมนักวิจารณ์ศิลปะนานาชาติ (International Association of Art Critics หรือ AICA) และได้รับปริญญาโทเกียรตินิยมด้านการภัณฑารักษ์ศิลปะร่วมสมัยจากราชวิทยาลัยศิลปะ (Royal College of Art) ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

กิตติมา จารีประสิทธิ์ ภัณฑารักษ์แห่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม จังหวัดเชียงใหม่ และ ใหม่อีหลี จังหวัดขอนแก่น ในปีพ.ศ. 2559 เธอร่วมก่อตั้งห้องทดลองภัณฑารักษ์รอคอยคุณ  เธอสนใจศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัย โดยเฉพาะประเด็นที่สัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ สังคม และการเมืองเชิงวิพากษ์ ทั้งที่เกี่ยวกับประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทำงานร่วมกับนัก วิชาการ ศิลปิน องค์กร และพื้นที่ทางศิลปะในหลากหลายรูปแบบจากหลากหลายประเทศ นิทรรศการที่ผ่านมาได้แก่ ประวัติศาสตร์กระจ้อยร้อย นิทรรศการโดยอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ที่ ใหม่อีหลี (2565) โครงการ Watch and Chill: Streaming Art to Your Homes โครงการที่ทำร่วมกับ National Museum of Modern and Contemporary Art, Korea, Contemporary Art and Design Museum in Manila, M+ West Kowloon Cultural District และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม House Calls: Pinaree Sanpitak ที่ มูลนิธิ 100 ต้นสน (2563) Breast Stupa Cookery: the world turns upside down ที่ โนว่า คอนเทมโพรารี่ (2563) แดนชั่ว ขณะ: ศิลปะสะสมใหม่เอี่ยม พ.ศ. 2553 – 2562 (2562)  In search of other times: reminiscence of things  ที่ JWD Art Space (2562) เธอจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขา การคัดสรรผลงานและจัดการชุดงานสะสม จาก Chelsea College of Arts ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

เกี่ยวกับ ไอคอน (IKON)

ไอคอน คือพื้นที่ศิลปะร่วมสมัยชั้นนำระดับนานาชาติ ตั้งอยู่ ณ ใจกลางของเมืองเบอร์มิงแฮม สหราชอาณาจักร ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2507 โดยกลุ่มศิลปิน ไอคอนถือเป็นองค์กรการกุศลเพื่อการศึกษาและสนับสนุนการมีส่วนร่วมระหว่างสาธารณะกับศิลปะร่วมสมัยผ่านการจัดแสดงงานศิลปะชิ้นใหม่ที่มีบริบทถึงการถกเถียงและการมีส่วนร่วม โปรแกรมของแกลเลอรี่รวมถึงการนำเสนอศิลปินจากทั่วโลกในรูปแบบงานศิลปะที่หลากหลาย ทั้งเสียง ภาพเคลื่อนไหว สื่อผสม ภาพถ่าย งานจิตรกรรม ประติมากรรม และศิลปะจัดวาง สำหรับกิจกรรมนอกสถานที่ของไอคอนนั้น พัฒนาขึ้นโดยมุ่งเน้นความสัมพันธ์อันเป็นพลวัตระหว่างศิลปะ ศิลปิน และผู้ชมนอกเหนือพื้นที่แสดงงาน โครงต่างๆมีความหลากหลายทั้งในเชิงขนาด ระยะเวลา และสถานที่ เพื่อท้าทายความรู้สึกคาดหวังในพื้นที่ที่ศิลปะจะถูกจัดแสดง หรือสร้างขึ้นโดยใคร การศึกษาคือหัวใจของกิจกรรมที่ไอคอน โดยคำนึงถึงความสนใจและความเข้าใจต่อทัศนศิลป์ในรูปแบบร่วมสมัยของประชาชน ผ่านการจัดกิจกรรมการพูดคุย ทัวร์ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การสัมมนา ฝ่ายการศึกษาของไอคอนมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่หลากหลายกับผู้ชม สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้ชมเพื่อสร้างบทสนทนาและสะท้อนความคิดเห็นต่อศิลปะร่วมสมัย